พล พลเรียน
“การศึกษา” เป็นสถานบันหลักที่สำคัญของ
สังคมในการทำหน้าที่ถ่ายทอด
ความรู้แก่พลเมืองในรัฐ หากมองดูผิวเผินการศึกษาจึง
ทำหน้าที่สร้างพลเมืองของสั
งคมให้มีความรู้ แต่ทว่าความรู้ที่ว่าแบบใดก
ันแน่ที่รัฐมอบให้แก่พลเรีย
น และแน่ว่าการการถ่ายทอดความ
รู้ที่เกิดขึ้น จึงไม่ใช่ก
...ารถ่ายทอดความรู้ที่เป็นเรื่องบังเอิญ หรือความหวังดีแต่ประการใด แต่เป็นการเลือกถ่ายทอดความรู้ หรือเลือกความรู้ที่จะถ่ายทอด ความรู้ที่ถูกจับยัดมาในการศึกษา จึงไม่ใช่ความรู้ที่มีอำนาจบริสุทธิ์ แต่เป็นความรู้ที่มาพร้อมกับการแบ่งแยก แบ่งแยกอย่างไรนั้น คือการที่รัฐได้พยามสร้าง “ความรู้แบบทางการ”ขึ้น เพื่อขีดเป็นเส้นขึ้น และความรู้แบบทางการนี้ก็ได้ถูกนำมาใส่ในห้องเรียนหรือโรงเรียน
ความรู้ในห้องเรียนหรือโรงเรียนจึงถูกทำให้กลายเป็นความรู้ที่จริงแท้ เป็นความรู้ที่ต้องรู้ หรือเป็นการยกให้ความรู้ในห้องเรียนเหนือกว่าความรู้อื่นๆเสียนั่นเอง ความรู้ๆอื่นจึงไม่ใช่ความจริงแท้ ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้“ความรู้นอกห้องเรียน”ถูกปฏิเสธทิ้ง(หรือถูกกดเอาไว้) หรือกล่าวได้ว่าได้กลายเป็นภัยหรือไม่ใช่สิ่งที่ควรรับรู้ต่อของพลเมืองที่รัฐมอบให้ ความรู้แบบไม่เป็นทางการที่ว่านี้คือความรู้ของท้องถิ่น ซึ่งล้วนเป็นความรู้ที่สัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของผู้เรียน ดังนั้น ความรู้ของท้องถิ่นจึงถูกมองเป็นสิ่งที่ต่ำกว่าความรู้ที่รัฐมอบให้ การนำความรู้ท้องถิ่นมาใช้จึงถูกมองว่าเป็นเรื่องน่าอายหรือล้าหลัง เป็นสิ่งที่ดูไม่ค่อยจะมีหลักการ
ดังนั้นเมื่อความรู้แบบทางการได้สถาปนาลงหลักอย่างหนักแน่ และกลายเป็นความรู้หลักในสังคม(?) วิถีชีวิตของผู้เรียนจึงได้ถูกดึงห่างออกจากชีวิตหลัก(คือชีวิตที่สัมพันธ์กับท้องถิ่นหรือชุมชนของตน) เพราะเขาเหล่านี้ถูกทำให้เชื่อว่าความรู้ที่ตนได้เรียน(แบบทางการ)เป็นความรู้ที่ดีกว่า ถูกต้องกว่า และน่าจะยึดเอาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตมากกว่า ท้ายสุดประสบการณ์ชีวิตที่เคยแก้ปัญหาด้วยความรู้ท้องถิ่น(แบบไม่เป็นทางการ)เริ่มหดหาย
“ความรู้ในแบบไม่เป็นทางการจึงถูกเก็บใส่ห่อปิดฝาและโยนทิ้งไป จากเจ้าของความรู้เอง”